เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า โรงไฟฟ้าจีนได้เริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่น 4 (Generation IV) เครื่องแรกของโลกแล้ว โดยเป็นการเดินเครื่องเพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของจีน ในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบเดิม ๆ
เริ่มเดินเครื่องทดลอง! ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันใหญ่ที่สุดในโลก
สหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์ ส่งเสริมความยั่งยืนด้านพลังงาน
ฐานขีปนาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ ตรวจพบสารก่อมะเร็งเกินมาตรฐาน
ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่า ความจริงแล้ว เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สามารถจำแนกประเภทได้หลายแบบ เช่น จำแนกตามประเภทปฏิกิริยานิวเคลยร์ จำแนกตามวัสดุตัวหน่วง (Moderator) จำแนกตามตัวหล่อเย็น จำแนกตามเชื้อเพลิง และอีกหนึ่งการจำแนก คือจำแนกตาม “รุ่น”
การจำแนกตามรุ่นเป็นการจำแนกด้วยช่วงเวลาในการสร้าง เพราะแต่ละยุคสมัยก็จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป โดยเครื่องปฏิกรณ์รุ่น 1 (Gen I) จะนับตั้งแต่ยุคแรกที่มีการค้นพบพลังงานนิวเคลียร์ เป็นปฏิกรณ์เพื่อการทดลองเท่านั้น
ยุคต่อมา ช่วงปี 1965-1996 เป็นเครื่องปฏิกรณ์รุ่น 2 (Gen II) เป็นปิกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกือบทั้งหมดจนถึงปัจจุบันใช้เตาปฏิกรณ์รุ่นนี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล
ส่วนเครื่องปฏิกรณ์รุ่น 3 (Gen III) ก็จะเป็นปฏิกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาตต่อยอดจากรุ่น 2 เสริมความสามารถในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น เชื้อเพลิง ประสิทธิภาพเชิงความร้อน ระบบความปลอดภัย และการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและต้นทุน
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องปฏิกรณ์รุ่นก่อนแล้ว ปฏิกรณ์รุ่นที่ 4 จึงได้รับการออกแบบให้ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับความประหยัดและความปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการลดของเสียที่เป็นสารกัมมันตภาพรังสี
อย่างไรก็ดี เน้นย้ำอีกครั้งว่า ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามในปัจจุบัน ยังคงเป็นการสร้างพลังงานจากปฏิกิริยานัวเคลียร์ฟิชชัน (Fission) อยู่ คือใช้ความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาดังกล่าวในการสร้างพลังงาน ซึ่งวิธีนี้จะเปิดของเสียที่เป็นสารกัมมันตภาพรังสี ส่วนเตาปฏิกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีฟิวชัน (Fusion) ซึ่งสะอาดกว่านั้น ปัจจุบันยังคงอยู๋ระหว่างการทดลองและพัฒนา ที่เพิ่งมีข่าวเดินเครื่องทดลองไปก็คือ “JT-60SA” ในประเทศญี่ปุ่น
เดิมทีคาดการณ์กันว่า เตาปฏิกรณณ์นิวเคลียร์รุ่น 4 นั้นจะต้องรอจนถึงช่วงราวปี 2030 จึงจะมีการนำมาใช้จริง ทำให้การเปิดตัวเตาปฏิกรณ์รุ่น 4 ตัวแรกของจีนครั้งนี้ เป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก
สำหรับเตาปฏิกรณ์รุ่น 4 ของจีนนี้ ตั้งอยู่ในโรงไฟฟ้าสือเต่าวาน (Shidaowan) ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของจีน
สำนักข่าวซินหัวระบุว่า เครื่องปฏิกรณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องปฏิกรณ์ถังกรวดอุณหภูมิสูงระบายความร้อนด้วยแก๊ส (HTGCR) ขนาด 200 เมกะวัตต์ (MW) ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัทสาธารณูปโภคฮวาเหนิง มหาวิทยาลัยซิงหัว และบริษัท นิวเคลียร์แห่งชาติจีนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
จาง จั้วอี้ คณบดีสถาบันพลังงานนิวเคลียร์และเทคโนโลยีพลังงานใหม่ มหาวิทยาลัยซิงหัว ผู้ออกแบบเตาปฏิกรณ์รุ่น 4 บอกว่า ปฏิกรณ์รุ่นใหม่นี้มีความปลอดภัยเป็นคุณลักษณะสำคัญ สามารถรักษาสถานะที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงจากการหลอมละลาย (Meltdown) หรือการรั่วไหลของวัสดุกัมมันตภาพรังสีได้
เขาเสริมว่า ความสามารถด้านความปลอดภัยนี้จะยังคงอยู่ แม้ในกรณีที่เครื่องสูญเสียความสามารถในการทำความเย็นโดยสิ้นเชิง โดยไม่มีการแทรกแซงใด ๆ
ซินหัวระบุว่า การดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมความปลอดภัย ตลอดจนความสามารถทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของจีน
จีนมีเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ 10% ภายในปี 2035 และ 18% ภายในปี 2060 แต่ ณ เดือนกันยายนปีนี้ ยังไม่บรรลุเป้าหมายของปี 2020 ที่จะติดตั้งกำลังการผลิตนิวเคลียร์ให้ได้ 58 กิกะวัตต์
เรียบเรียงจาก Reuters / Xinhua
ภาพจาก Reuters
ป.ป.ช. แจงยิบ ยืนยัน“ครูชัยยศ” ถูกปลดเพราะมีมูลความผิดอย่างร้ายแรง
ยูเนสโกประกาศแล้ว! "สงกรานต์" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ เคาะงบฯ 5,164 ล้าน ดัน 11 ด้านซอฟต์พาวเวอร์ไทย